Ace = 1 แต้ม (ไพ่แต้มเล็กสุด), ไพ่หน้าตัวเลขมีแต้มตามตัวเลขหน้าไพ่ 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10
และไพ่หน้าฝรั่ง Jack = 11 แต้ม Queen = 12 แต้ม และ King = 13 แต้ม (ไพ่แต้มใหญ่สุด)

การวางเดิมพัน  Dragon tiger

การวางเดิมพันฝั่งมังกรหรือเสือแล้ว ผู้เล่นจะรอเจ้ามือวางไพ่บนกระดานแล้วหงายไพ่ ไพ่ที่มีแต้มสูงกว่าจะชนะ แต่เกมนี้มีกฎสำคัญ 2 ข้อ ข้อแรกไพ่เอซมีแต้มต่ำ ดังนั้นการลำดับของไพ่จากต่ำไปสูงจะเป็นดังนี้ เอซ-2-3-4-5-6-7-8-9-10-J-Q-K

นอกจากนี้เมื่อไม่คำนึงถึงว่าผู้เล่นจะวางเดิมพันฝั่งมังกรหรือเสือ ถ้าทั้งสองฝั่งได้แต้มเท่ากัน เช่น 8 กับ 8 เกมนั้นจะถือว่าเสมอ เจ้ามือจะได้ครึ่งหนึ่งของการเดิมพัน ส่วนไพ่แต้มสูงจะชนะ ไพ่แต้มต่ำจะแพ้ คาสิโนจะไม่มีความเป็นต่อหากไม่ได้รับประโยชน์จากการเสมอ ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละมือมีความเป็นไปได้ถึง 86,320 โดยมี 6,448 ผลลัพธ์ที่จะเสมอกัน สิ่งนี้ช่วยให้คาสิโนมีความเป็นต่อของการเดิมพัน อยู่ที่ร้อยละ 3.73 ความเป็นต่อนี้มีมากกว่าการเล่นบาคาร่า

1. เดิมพันเสมอ

ผู้เล่นสามารถวางเดิมพันแต้มเสมอ ซึ่งมีความเป็นไปได้ 6,448 ผลลัพธ์ จากความเป็นไปได้ทั้งหมด 86,320 มาตรฐานการจ่ายสำหรับแต้มเสมอคือ 8 ต่อ 1 ทำให้คาสิโนเป็นต่อมากถึงร้อยละ 32.77 ถ้าคุณเคยเล่นคาสิโนวอร์ คุณจะทราบว่าเดิมพันเสมอจะจ่ายที่ 10 ต่อ 1 สำหรับความเป็นต่อของคาสิโนครึ่งเท่า ในความเป็นจริงที่ร้อยละ 17.83 คาสิโนออนไลน์สามารถจ่าย 11 ต่อ 1 และยังคงมีความเป็นต่อที่ร้อยละ 10.36

2. การเดิมพันสูงต่ำ

ผู้เล่นอาจวางเดิมพันว่าไพ่ (มังกรหรือเสือ) จะมีแต้มสูง (มากกว่า 7) หรือต่ำ (น้อยกว่า 7) การเดิมพันนี้มีไพ่ 6 ใบที่ถือว่าแต้มสูง (8,9,10,J,Q,K) และไพ่แต้มต่ำ 6 ใบ (เอซ,2,3,4,5,6) ผู้วางเพิมพันจะชนะถ้าทายแต้มสูงต่ำได้ถูกต้อง และจะแพ้เดิมพันหากทายผิด หากแต้มออกมาเสมอที่ 7 ผู้เล่นจะเสียเดิมพันเช่นกัน คาสิโนมีความเป็นต่ออยู่ที่ร้อยละ 7.69 ในการวางเดิมพันนี้

3. การเดิมพันชุดไพ่

ผู้เล่นสามารถวางเดิมพันว่าจะจั่วได้ไพ่ชุดใด เมื่อเดิมพันได้ถูกต้องจะได้รับผลตอบแทนที่ 3 ต่อ 1 และจะเสียเดิมพันเมื่อไพ่ในฝั่งที่เลือก (มังกรหรือเสือ) ไม่ตรงกับชุดไพ่ที่วางเดิมพัน คาสิโนจะชนะการเดิมพันเมื่อได้ไพ่แต้ม 7